แมวหายใจหอบ ลิ้นม่วง ไอแรง: สัญญาณเตือนโรคร้ายที่คุณต้องรู้

โรคที่ทำให้แมวไอ หอบ และหายใจแรง

1. โรคหอบหืดในแมว (Feline Asthma)
   เป็นโรคเรื้อรังของทางเดินหายใจล่าง เกิดจากการอักเสบของหลอดลม ทำให้หลอดลมหดตัว ส่งผลให้หายใจลำบาก มักพบในแมวอายุ 1–6 ปี และมีแนวโน้มเกิดอาการรุนแรงขึ้นเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น เช่น ฝุ่น ละอองเกสร
2. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
   เช่น ไข้หวัดแมว ที่เกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย อาจทำให้แมวมีน้ำมูก ไอ จาม หายใจแรง โดยเฉพาะแมวที่ไม่ได้รับวัคซีน
3. ภาวะหัวใจล้มเหลว
   ส่งผลให้ของเหลวคั่งในปอด ทำให้แมวหายใจหอบเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะในแมวที่มีโรคหัวใจเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว
4. เนื้องอกในปอดหรือทรวงอก
   อาจกดทับหลอดลมหรือปอด ทำให้หายใจลำบาก มักพบในแมวอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
5. สิ่งแปลกปลอมอุดตันทางเดินหายใจ
   เช่น เศษอาหารหรือวัตถุขนาดเล็กที่หลุดเข้าไปในหลอดลม อาจทำให้เกิดอาการไอกะทันหันและหายใจขัด
6. ปัญหาเกี่ยวกับหลอดอาหาร
   โดยเฉพาะในแมวที่มีอาการสำรอกบ่อย ๆ อาจมีเศษอาหารไหลย้อนเข้าสู่ทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบและไอเรื้อรัง

• ทุกเพศทุกวัย สามารถเป็นโรคเหล่านี้ได้ทั้งหมด
• แมวสายพันธุ์หน้าแบน เช่น เปอร์เซีย, สก็อตติชโฟลด์, เอ็กโซติกช็อตแฮร์ มักมีทางเดินหายใจแคบ
• แมวพันธุ์ที่มีแนวโน้มโรคหัวใจ เช่น เมนคูน, เบงกอล, สฟิงซ์
• แมวที่มีประวัติแพ้ ฝุ่น ละอองเกสร หรือขนสัตว์
• แมวที่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ เช่น ควันบุหรี่ หรือฝุ่นละออง
• บ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัว เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อจากกัน

• ซึม ไม่ร่าเริง
• เบื่ออาหาร
• น้ำหนักลด
• มีไข้
• หายใจมีเสียงหวีด
• ไอมีเสมหะ

1. ตรวจร่างกายและฟังเสียงปอด
2. เอกซเรย์ทรวงอก
3. ตรวจเลือด
4. อัลตร้าซาวด์หัวใจ
5. การส่องกล้องทางเดินหายใจ

• โรคหอบหืด: ใช้ยาพ่นขยายหลอดลม, ยาต้านการอักเสบ และควบคุมสิ่งกระตุ้น
• โรคติดเชื้อ: ให้ยาปฏิชีวนะและการดูแลแบบประคับประคอง
• ภาวะหัวใจล้มเหลว: ใช้ยาควบคุมหัวใจ, ขับปัสสาวะเพื่อลดน้ำคั่งในปอด
• เนื้องอก: ผ่าตัดหรือให้เคมีบำบัดในบางกรณี

• ให้ยาตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
• ดูแลเรื่องความสะอาด เช่น เปลี่ยนทรายแมว ทำความสะอาดที่นอน
• หลีกเลี่ยงควัน ฝุ่น และมลภาวะอื่น ๆ
• ดูแลเรื่องอุณหภูมิร่างกาย ไม่ให้แมวหนาวหรือร้อนเกินไป
• ให้กำลังใจแมวด้วยการลูบตัว พูดคุยเบา ๆ เพื่อช่วยคลายเครียด

• ย่อยง่าย เพื่อลดภาระระบบทางเดินอาหาร
• โปรตีนสูง เพื่อฟื้นฟูร่างกาย
• ไขมันต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหัวใจล้มเหลว
• เสริมวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะที่ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน

• ฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ
• ตรวจสุขภาพประจำปี
• ให้อาหารคุณภาพดีเหมาะกับวัย
• รักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัยและภาชนะอาหาร

สรุป
อาการหอบ หายใจแรง หรืออาการไอในแมวไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคร้ายแรง การพาแมวพบสัตวแพทย์ตั้งแต่แรกเริ่มสามารถช่วยยืดอายุและเพิ่มคุณภาพชีวิตของแมวได้มาก

หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณอาจมีอาการผิดปกติ สามารถปรึกษาทีมสัตวแพทย์ที่โรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลที่เหมาะสมที่สุด

ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์

• ติดต่อสอบถามหรือโทรนัดหมาย : 086-328-3781, 02-809-2372
• นัดหมายสัตวแพทย์ / สอบถามข้อมูล : คลิกที่นี่
• ปรึกษาสัตวแพทย์ออนไลน์  : คลิกที่นี่