เช็กยังไง? ว่าน้องแมวกำลังเป็นไข้อยู่

Last updated: 26 ต.ค. 2568  |  100 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เช็กยังไง? ว่าน้องแมวกำลังเป็นไข้อยู่

เช็กยังไง? ว่าน้องแมวกำลังเป็นไข้อยู่

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่สามารถบอกเราได้ตรงๆ ว่าเขาเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย หลายครั้งแมวอาจซ่อนอาการจนเจ้าของสังเกตไม่ออก การรู้จักสังเกตว่า น้องแมวเป็นไข้หรือไม่ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอาการไข้ในแมวอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงภาวะรุนแรงที่ต้องรักษาโดยด่วน

บทความนี้จะพาคุณมาเรียนรู้ วิธีเช็กอาการไข้แมว และสัญญาณที่ควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถดูแลน้องแมวได้อย่างทันท่วงที

อุณหภูมิปกติของแมวอยู่ที่เท่าไร?

ก่อนเช็กว่าแมวมีไข้หรือไม่ เราควรรู้ก่อนว่าอุณหภูมิปกติของแมวอยู่ที่ 38.1–39.2 องศาเซลเซียส หากเกิน 39.5°C ถือว่าเป็น ไข้แมว แต่หากอุณหภูมิสูงกว่า 40.5°C ถือว่าอันตราย ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

วิธีวัดอุณหภูมิแมว
การวัดอุณหภูมิเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการเช็กว่าแมวมีไข้หรือไม่ โดยสามารถทำได้ดังนี้
1.ใช้ปรอทวัดทางทวารหนัก

  • ทาน้ำมันหล่อลื่นเล็กน้อยที่ปลายปรอท
  • จับแมวให้อยู่ในท่าที่ปลอดภัย
  • สอดปรอทเข้าทางทวารหนักประมาณ 1–2 ซม.

2.ใช้เทอร์โมมิเตอร์ดิจิทัลสำหรับสัตว์

  • ใช้ง่ายและรวดเร็ว
  • เหมาะสำหรับเจ้าของที่ไม่ชำนาญ
    ***หากไม่มั่นใจ ควรให้สัตวแพทย์เป็นผู้วัดอุณหภูมิ เพราะน้องแมวอาจดิ้นและทำให้บาดเจ็บได้

สัญญาณที่บ่งบอกว่าแมวอาจกำลังเป็นไข้

นอกจากการวัดอุณหภูมิแล้ว เจ้าของยังสามารถสังเกตพฤติกรรมและร่างกายของน้องแมวได้ โดยอาการที่พบบ่อยเมื่อแมวมีไข้ ได้แก่:

  • ซึม ไม่ร่าเริง ไม่อยากเล่นเหมือนปกติ
  • เบื่ออาหาร กินน้อยลงหรือไม่กินเลย
  • นอนมากผิดปกติ ดูเหนื่อยง่าย
  • หายใจเร็วหรือหอบ
  • อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น
  • ขนหยาบ ไม่สวยงาม เพราะไม่เลียขนทำความสะอาด
  • มีน้ำมูกหรือขี้ตา บ่งบอกถึงการติดเชื้อ
  • หูและอุ้งเท้าอุ่นกว่าปกติ
    หากพบอาการเหล่านี้ร่วมกับอุณหภูมิสูงกว่าปกติ แสดงว่าแมวอาจกำลังมีไข้

สาเหตุที่ทำให้แมวเป็นไข้

อาการไข้ในแมวเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย เช่น ไข้หวัดแมว (Feline Upper Respiratory Infection)
  • อาการอักเสบในร่างกาย เช่น แผลติดเชื้อ หรือโรคฟันและเหงือก
  • ภาวะเครียดหรือได้รับวัคซีน บางครั้งแมวอาจมีไข้ชั่วคราวหลังฉีดวัคซีน
  • โรคร้ายแรง เช่น ไตวาย ตับอักเสบ หรือโรคเลือดบางชนิด

วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อแมวเป็นไข้

หากสงสัยว่าแมวมีไข้ ควรปฏิบัติดังนี้:

  • จัดสภาพแวดล้อมให้เงียบสงบและอากาศถ่ายเท
  • ให้น้ำสะอาดตลอดเวลาเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • เสิร์ฟอาหารที่ย่อยง่ายและน่ากิน เช่น อาหารเปียก
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาลดไข้ของคน เช่น พาราเซตามอล เพราะอันตรายต่อแมว
  • หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์

เมื่อไรควรรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที?

แมวที่มีไข้สูงหรือมีอาการเหล่านี้ควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน:

  • อุณหภูมิสูงกว่า 40.5°C
  • ไม่กินอาหารและน้ำเกิน 24 ชั่วโมง
  • ซึม ไม่ตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง
  • หายใจลำบาก หรือมีอาการไอรุนแรง
  • มีเลือดปนในน้ำลาย อาเจียน หรืออุจจาระ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: จับหูหรือจมูกแมวแล้วร้อน แปลว่าเป็นไข้หรือไม่?
A: ไม่เสมอไป การวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด

Q: แมวสามารถหายไข้เองได้หรือไม่?
A: บางกรณี เช่น หลังฉีดวัคซีน ไข้อาจหายเองภายใน 1–2 วัน แต่หากไม่ดีขึ้นควรพาไปพบสัตวแพทย์

Q: ใช้ยาลดไข้ของคนให้แมวได้หรือไม่?
A: ไม่ได้เด็ดขาด ยาหลายชนิดเป็นพิษต่อแมวและอาจถึงชีวิต

สรุป

การสังเกตว่า น้องแมวเป็นไข้หรือไม่ เป็นทักษะที่เจ้าของควรรู้ เพราะอาการไข้แมวอาจซ่อนโรคหรือการติดเชื้อที่รุนแรงได้ การวัดอุณหภูมิและสังเกตพฤติกรรมร่วมกันจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง หากสงสัยว่าแมวมีไข้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างเหมาะสม

หากคุณต้องการให้น้องแมวได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพ การรักษาโรค หรือการดูแลในภาวะฉุกเฉิน แนะนำให้มาที่ โรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์ ที่นี่เรามีทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคแมวโดยเฉพาะ พร้อมมาตรฐานการดูแลแมว Cat-Friendly Clinic จากประเทศอังกฤษ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้องแมวของคุณจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย อ่อนโยน และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแมวแต่ละตัว

ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์
ติดต่อสอบถามหรือโทรนัดหมาย : 086-328-3781, 02-809-2372
นัดหมายสัตวแพทย์ / สอบถามข้อมูล : คลิกที่นี่

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้