- ตรวจสอบนโยบายของสายการบิน
ก่อนอื่นควรศึกษานโยบายของสายการบินที่คุณเลือกใช้บริการ เนื่องจากแต่ละสายการบินมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการขนส่งสัตว์เลี้ยงแตกต่างกัน
โดยทั่วไป สายการบินแบ่งประเภทการเดินทางของสัตว์เลี้ยงเป็น 2 รูปแบบ:
- นำสัตว์เลี้ยงขึ้นห้องโดยสาร (In Cabin): มักจำกัดน้ำหนักรวมกล่องไม่เกิน 5–7 กิโลกรัม
- โหลดใต้ท้องเครื่อง (Cargo): สำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดกลางถึงใหญ่ กล่องต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่สายการบินกำหนด เช่น IATA
สิ่งที่ควรสอบถามเพิ่มเติม ได้แก่:
- อัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- เอกสารที่ต้องใช้
- ข้อห้ามหรือข้อจำกัดสำหรับบางสายพันธุ์
- ระยะเวลาที่ต้องมาถึงก่อนการเช็กอิน
2. เช็กสุขภาพสัตว์เลี้ยงก่อนเดินทางไม่ใช่สัตว์เลี้ยงทุกตัวสามารถเดินทางได้โดยปลอดภัย หากสัตว์ของคุณยังเด็กมาก มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะเครียดสูง ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนตัดสินใจพาขึ้นเครื่อง
สัตวแพทย์จะช่วยประเมินสุขภาพโดยรวม รวมถึงสามารถออกใบรับรองสุขภาพที่จำเป็นต่อการเดินทาง
3. เตรียมเอกสารที่จำเป็นเพื่อให้การเดินทางราบรื่นโดยไม่ถูกปฏิเสธที่สนามบิน จำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน โดยเฉพาะหากเป็นการเดินทางระหว่างประเทศ
เอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่:
- ใบรับรองสุขภาพสัตว์เลี้ยง (Health Certificate) จากสัตวแพทย์ ออกภายใน 7 วันก่อนเดินทาง
- หลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และวัคซีนสำคัญอื่น ๆ
- หนังสือเดินทางสัตว์เลี้ยง (หากมี)
- ใบอนุญาตนำเข้าส่งออกสัตว์จากกรมปศุสัตว์ (สำหรับเดินทางข้ามประเทศ)
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบข้อกำหนดของประเทศปลายทาง เช่น การกักตัว หรือเอกสารพิเศษที่อาจจำเป็น
4. กล่องหรือกระเป๋าสำหรับสัตว์เลี้ยง
กล่องหรือกระเป๋าที่ใช้สำหรับการเดินทางต้องมีลักษณะดังนี้:
- แข็งแรง ไม่ชำรุด มีการระบายอากาศที่ดี
- ขนาดเหมาะสมให้น้องสามารถยืน หมุนตัว และนอนได้สบาย
- ปิดล็อกแน่นหนา เพื่อความปลอดภัยขณะโหลด
สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เดินทางในห้องโดยสาร กล่องต้องมีขนาดที่สามารถวางใต้เบาะที่นั่งได้
แนะนำให้ฝึกให้น้องเข้าไปอยู่ในกล่องก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ เพื่อให้เคยชิน ลดความเครียดเมื่อต้องเดินทางจริง
5. การเตรียมตัวในวันเดินทางก่อนถึงวันเดินทาง ควรมีการเตรียมตัวดังนี้:
- งดอาหารก่อนขึ้นเครื่องประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
- ให้น้ำเพียงพอ แต่ควรงดก่อนขึ้นเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง
- เตรียมผ้าเช็ดทำความสะอาดสำรองในกรณีสัตว์ขับถ่ายระหว่างทาง
- ติดป้ายชื่อสัตว์เลี้ยง พร้อมเบอร์ติดต่อของเจ้าของไว้ที่กล่องอย่างชัดเจน
ควรเดินทางถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาทำขั้นตอนเช็กอินอย่างครบถ้วน
6. ข้อควรระวังในการเดินทางเพื่อให้การเดินทางของสัตว์เลี้ยงปลอดภัยและสบายที่สุด ควรระมัดระวังในประเด็นต่อไปนี้:
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ เพราะอาจส่งผลต่อระบบหายใจขณะอยู่ในสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
- หลีกเลี่ยงการเดินทางในฤดูร้อนหรือช่วงอากาศรุนแรง
- ตรวจสอบจุดส่งสัตว์เลี้ยงเมื่อเดินทางถึงปลายทาง เพื่อให้สามารถรับน้องได้ทันทีหลังเครื่องลง
สรุป: เช็กลิสต์พาน้องหมาน้องแมวขึ้นเครื่องบิน
✔ ตรวจสอบนโยบายสายการบิน
✔ ปรึกษาสัตวแพทย์
✔ ขอใบรับรองสุขภาพ
✔ ฉีดวัคซีนครบถ้วน
✔ เตรียมกล่องเดินทางตามมาตรฐาน
✔ ฝึกให้น้องคุ้นเคยกับกล่อง
✔ เตรียมเอกสารที่ประเทศปลายทางต้องการ
✔ เดินทางถึงสนามบินล่วงเวลา
สรุปท้ายบทความ
การพาน้องหมาน้องแมวขึ้นเครื่องบินไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การเลือกสายการบิน เตรียมเอกสาร สุขภาพสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงกล่องเดินทาง การใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นทั้งสำหรับเจ้าของและสัตว์เลี้ยง
หากไม่แน่ใจในขั้นตอนใด สามารถปรึกษาสัตวแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ของสายการบินเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้เสมอ
ติดต่อสอบถามหรือโทรนัดหมาย : 086-328-3781, 02-809-2372
นัดหมายสัตวแพทย์ / จองห้องพักสัตว์เลี้ยง : คลิก
นัดหมายทางออนไลน์ คลิกที่นี่ : https://lin.ee/F2IgpiG