5 โรคแมวที่เจ้าของควรรู้ พร้อมวิธีป้องกันและแนวทางดูแลที่เหมาะกับแมว

Last updated: 4 พ.ค. 2568  |  14 จำนวนผู้เข้าชม  | 

5 โรคแมวที่เจ้าของควรรู้ พร้อมวิธีป้องกันและแนวทางดูแลที่เหมาะกับแมว

1.โรคหัดแมว (Feline Panleukopenia)

เกิดจากเชื้อไวรัสพาร์โวที่มีผลต่อระบบทางเดินอาหารและเม็ดเลือดขาว พบมากในลูกแมว แมวจร หรือแมวที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกัน

อาการที่พบ: ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสียรุนแรงจนเกิดภาวะขาดน้ำ บางรายอาจมีอาการชักหรือช็อก

การป้องกัน: การฉีดวัคซีนเป็นประจำถือเป็นทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และควรพาแมวไปตรวจสุขภาพปีละครั้งที่สถานพยาบาลสัตว์ที่มีประสบการณ์ดูแลแมวโดยเฉพาะ

2.โรคหวัดแมว

เกิดจากเชื้อไวรัสพาร์โวที่มีผลต่อระบบทางเดินอาหารและเม็ดเลือดขาว พบมากในลูกแมว แมวจร หรือแมวที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกัน

อาการที่พบ: ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสียรุนแรงจนเกิดภาวะขาดน้ำ บางรายอาจมีอาการชักหรือช็อก

การป้องกัน: การฉีดวัคซีนเป็นประจำถือเป็นทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และควรพาแมวไปตรวจสุขภาพปีละครั้งที่สถานพยาบาลสัตว์ที่มีประสบการณ์ดูแลแมวโดยเฉพาะ


3. มะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว (FeLV)
เป็นไวรัสที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของแมวอย่างรุนแรง ทำให้แมวป่วยบ่อย ติดเชื้อซ้ำซ้อน และบางรายอาจเกิดเนื้องอกตามร่างกาย

อาการที่พบ: ต่อมน้ำเหลืองโต ภาวะโลหิตจาง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

การติดต่อ: ผ่านน้ำลาย ปัสสาวะ และการใช้ของร่วมกับแมวป่วย เช่น ถ้วยน้ำ หรือกระบะทราย

การป้องกัน: ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสเป็นประจำ และพาแมวเข้ารับวัคซีนตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ โดยเฉพาะในแมวที่มีความเสี่ยงสูง เช่น แมวที่เคยใช้ชีวิตกลางแจ้ง

4. โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (FIP)

เกิดจากไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์ในร่างกายแมว ซึ่งแม้จะไม่ติดต่อสู่คน แต่เป็นโรคที่รักษายากและมีอัตราการเสียชีวิตสูง

อาการที่ควรสังเกต: ซึม เบื่ออาหาร ท้องโต น้ำหนักลด และในบางรายอาจมีอาการทางระบบประสาท

แนวทางป้องกัน: ดูแลสุขอนามัยรอบตัวแมว เช่น การแยกกระบะทราย หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ และเลือกคลินิกรักษาแมวที่มีระบบควบคุมการติดเชื้อที่เหมาะสม

5. โรคเอดส์แมว (FIV)

คล้ายโรคเอดส์ในคน แต่เกิดเฉพาะในแมวเท่านั้น ส่งผลให้แมวมีภูมิคุ้มกันต่ำ และติดเชื้อแทรกซ้อนง่าย

อาการ: เหงือกอักเสบ น้ำหนักลด ติดเชื้อทางเดินหายใจเรื้อรัง ต่อมน้ำเหลืองโต

การติดต่อ: มักติดต่อผ่านการกัด หรือเลือด โดยเฉพาะในแมวตัวผู้ที่มีพฤติกรรมต่อสู้หรือออกไปนอกบ้านบ่อย

การดูแล: เลี้ยงแมวในระบบปิด และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อประเมินความเสี่ยง

ดูแลแมวให้ปลอดภัย เริ่มต้นจากคลินิกที่เข้าใจแมวจริง ๆ

การพาแมวไปรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไปอาจทำให้แมวเกิดความเครียดได้ง่าย โดยเฉพาะหากมีสุนัขหรือเสียงรบกวนรอบข้าง เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไวต่อสิ่งแวดล้อม

หากคุณกำลังมองหาคลินิกรักษาแมวที่เน้นความสงบ ปลอดภัย และออกแบบมาเฉพาะสำหรับแมวโดยเฉพาะ ขอแนะนำให้เลือกโรงพยาบาลสัตว์ที่ผ่านมาตรฐาน Cat Friendly Clinic ซึ่งมีทีมสัตวแพทย์และผู้ช่วยสัตวแพทย์ที่เข้าใจพฤติกรรมแมว และพร้อมให้การดูแลอย่างอ่อนโยน

เพราะการป้องกันโรคในแมว เริ่มต้นได้ง่าย ๆ ที่การดูแลเชิงป้องกัน และเลือกสถานพยาบาลที่เข้าใจ “หัวใจของแมว” อย่างแท้จริงค่ะ

ติดต่อสอบถามหรือโทรนัดหมาย :  086-328-3781, 02-809-2372  

นัดหมายสัตวแพทย์ / จองห้องพักสัตว์เลี้ยง : คลิก

นัดหมายทางออนไลน์ คลิกที่นี่  :  https://lin.ee/F2IgpiG

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้