อาหารแบบไหนที่ใช่? โภชนาการเพื่อหัวใจที่แข็งแรงในสัตว์เลี้ยง

Last updated: 27 ส.ค. 2568  |  79 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อาหารแบบไหนที่ใช่? โภชนาการเพื่อหัวใจที่แข็งแรงในสัตว์เลี้ยง

โรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงไม่ได้เกิดเฉพาะในสัตว์อายุมากเท่านั้น แต่ยังพบได้ในสุนัขและแมวทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในบางสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มสูง เช่น แมวพันธุ์เปอร์เซีย เมนคูน หรือสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน พุดเดิ้ล และบ็อกเซอร์

นอกจากการให้ยารักษาตามดุลยพินิจของสัตวแพทย์แล้ว โภชนาการก็เป็นหัวใจสำคัญของการดูแลสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะในรายที่เริ่มมีอาการรุนแรงหรืออยู่ในระยะท้าย ซึ่งมักเกิดภาวะ “ผอมแห้งจากโรคหัวใจ” หรือ Cardiac Cachexia

โภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยชะลอความเสื่อมของกล้ามเนื้อหัวใจ บรรเทาภาวะแทรกซ้อน และยืดอายุของสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีคุณภาพ

เป้าหมายของการจัดโภชนาการในสัตว์ที่เป็นโรคหัวใจ

  • ช่วยลดภาระในการทำงานของหัวใจ
  • ป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ (Muscle Wasting)
  • ลดการอักเสบในร่างกาย
  • เพิ่มความอยากอาหารในสัตว์ที่กินได้น้อย
  • ควบคุมภาวะคั่งน้ำและอิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล

สารอาหารที่สำคัญและควรใส่ใจ

  • โปรตีน : โปรตีนเป็นพื้นฐานสำคัญในการรักษามวลกล้ามเนื้อ ซึ่งมีบทบาทในการรักษาอาการ ผอมแห้งจากโรคหัวใจ ไม่ควรจำกัดโปรตีน เว้นแต่มีโรคไตร่วมด้วย
    ปริมาณที่แนะนำ: อย่างน้อย 5.1 กรัม ต่อ 100 กิโลแคลอรี่
  • ทอรีน (Taurine) : มีผลสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ โดยเฉพาะในสัตว์ที่มีภาวะหัวใจโต (DCM)
    ขนาดที่แนะนำ: 500–1000 มิลลิกรัมต่อตัว ทุก 8–12 ชั่วโมง
  • กรดไขมันโอเมก้า-3 (EPA, DHA): ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความอยากอาหาร และช่วยให้หัวใจทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นปริมาณที่แนะนำ: EPA 40 มก./กก. และ DHA 25 มก./กก.น้ำหนักตัว ต่อวัน
  • แมกนีเซียม: ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจ และความดันเลือดปริมาณในอาหาร: 10–40 มก. ต่อ 100 กิโลแคลอรี่
  • Coenzyme Q10: สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กล้ามเนื้อหัวใจ
    ขนาดแนะนำ: 30 มก./ตัว วันละ 2 ครั้ง

การควบคุมโซเดียมในอาหาร

โซเดียมส่งผลต่อการคั่งน้ำในร่างกาย หากได้รับมากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น โดยระดับการควบคุมควรแปรตามอาการของโรค

  • ระยะไม่มีอาการ: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูงกว่า 100 มก./100 กิโลแคลอรี่
  • ระยะมีอาการเล็กน้อย–ปานกลาง: จำกัดที่ 50–80 มก./100 กิโลแคลอรี่
  • ระยะอาการรุนแรง: จำกัดให้น้อยกว่า 50 มก./100 กิโลแคลอรี่

เทคนิคเพิ่มความอยากอาหารในสัตว์ที่กินได้น้อย

  • เปลี่ยนจากอาหารเม็ดเป็นอาหารเปียก
  • อุ่นอาหารเล็กน้อยก่อนให้
  • ให้ทีละน้อย แต่แบ่งเป็นหลายมื้อ
  • ปรับภาชนะให้เหมาะกับขนาดและพฤติกรรมการกิน
  • ปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องการใช้ยากระตุ้นความอยากอาหาร หากจำเป็น

อาหารที่ดี คือการดูแลน้องในระยะยาว
การดูแลสุนัขและแมวที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ได้มีเพียงแค่การกินยาเท่านั้น
แต่ อาหารคือเครื่องมือช่วยรักษาที่สำคัญไม่แพ้กัน

การวางแผนโภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุ ชะลอภาวะแทรกซ้อน และทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง หากคุณไม่แน่ใจว่าอาหารที่ใช้อยู่เหมาะสมกับน้องหรือไม่ สามารถปรึกษาสัตวแพทย์ด้านโภชนาการหรือโรงพยาบาลสัตว์ที่คุณไว้วางใจเพื่อออกแบบสูตรเฉพาะสำหรับน้องได้เลย

ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์
ติดต่อสอบถามหรือโทรนัดหมาย : 086-328-3781, 02-809-2372
นัดหมายสัตวแพทย์ / สอบถามข้อมูล : คลิกที่นี่
ปรึกษาสัตวแพทย์ออนไลน์  : คลิกที่นี่

อาหารสำหรับสุนัขโรคหัวใจ โภชนาการโรคหัวใจสัตว์เลี้ยง โรคหัวใจในหมาแมว อาหารบำรุงหัวใจสุนัข ควบคุมโซเดียมในอาหารสัตว์ โภชนาการสุนัขป่วย สุนัขหัวใจโต สารอาหารที่ดีต่อหัวใจสัตว์ ผอมแห้งจากโรคหัวใจ (Cardiac Cachexia) สุนัขกินอาหารไม่ลง แมวเป็นโรคหัวใจควรกินอะไร สุนัขเป็นโรคหัวใจกินอาหารแบบไหนดี อาหารสุนัขโรคหัวใจควรมีสารอาหารอะไรบ้าง โภชนาการช่วยชะลอโรคหัวใจในแมวได้หรือไม่ ควรจำกัดโซเดียมเท่าไหร่ในอาหารสัตว์ที่มีโรคหัวใจ วิธีเพิ่มความอยากอาหารในหมาแมวที่ป่วยโรคหัวใจ สารอาหารอะไรช่วยกล้ามเนื้อหัวใจในสัตว์เลี้ยง โรคหัวใจในแมวควรใช้อาหารเม็ดหรืออาหารเปียก
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้