ทำไมต้องแปรงขนสุนัข?
- กำจัดฝุ่น เศษผง และขนที่หลุดร่วง
 - กระตุ้นต่อมน้ำมัน ช่วยให้ขนเงางามและนุ่มขึ้น
 - ป้องกันการเกิด “สังกะตัง” หรือขนพันกัน
 - สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับน้องหมา
 
ประเภทของหวี และวิธีเลือกให้เหมาะกับขนแต่ละแบบ1. หวีลวด / แปรงสลิคเกอร์ (Slicker Brush)เหมาะสำหรับ:- สุนัขขนยาว ขนฟู หรือขนหยิก เช่น พุดเดิ้ล, ปอมเมอเรเนียน, ชิสุห์
 
จุดเด่น:- ช่วยสางขนพันกันตามจุดเสี่ยง เช่น หลังใบหู รักแร้ และข้อขา
 - ลดการเกิดขนจับตัวเป็นก้อน
 - ขนแน่น ฟู สวยงามหลังแปรง
 
ข้อควรระวัง:- ใช้อย่างเบามือ เพื่อป้องกันการข่วนหรือทำร้ายผิวหนัง
 
2. หวีแบบไม่มีหัวหมุด (No-tip Pin Brush)เหมาะสำหรับ:- ขนยาว ขนตรง หรือขนชั้นเดียว เช่น ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์, โกลเด้นรีทรีฟเวอร์
 
จุดเด่น:- ไม่มีหัวหมุดปลาย ทำให้ลดการดึงขนขาด
 - ช่วยนวดเบา ๆ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
 - ขนเงางามเป็นธรรมชาติ
 
3. แปรงขนหมู (Bristle Brush)เหมาะสำหรับ:- สุนัขขนสั้นหรือสั้นมาก เช่น ปั๊ก, ชิวาวา, ร็อตไวเลอร์
 
จุดเด่น:- ทำจากขนหมูป่าธรรมชาติ ปลายขนแปรงโค้งมน
 - ไม่ระคายเคืองผิวหนัง
 - ใช้ไล่ฝุ่นและขนหลุดร่วงได้ดี
 - สามารถใช้ร่วมกับน้องหมาขนยาวเพื่อช่วยนวดผิว
 
เคล็ดลับการแปรงขนที่ควรรู้
- แปรงขนอย่างน้อย สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง สำหรับหมาขนยาว
 - หมาขนสั้นควรแปรง สัปดาห์ละครั้ง เพื่อไล่ขนที่หลุด
 - ใช้หวีให้เหมาะกับ “ลักษณะขน” ของสุนัขแต่ละสายพันธุ์
 - ไม่ควรแปรงแรงจนเกินไป อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง
 
สรุป
การเลือกหวีที่เหมาะสมกับขนของน้องหมา ไม่เพียงช่วยให้ขนดูดี แต่ยังป้องกันปัญหาผิวหนัง และช่วยสร้างช่วงเวลาคุณภาพระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย หากยังไม่แน่ใจว่าควรใช้หวีแบบไหนดี อย่าลังเลที่จะปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลขนสัตว์นะคะ
 
โรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์
เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพและความงามของคนสำคัญในบ้านของคุณ
 เพราะสุขภาพดี... เริ่มที่การดูแลตั้งแต่เส้นขน
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุนัข ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณ
ติดต่อสอบถามหรือโทรนัดหมาย :  086-328-3781, 02-809-2372  
นัดหมายสัตวแพทย์ / จองห้องพักสัตว์เลี้ยง : คลิก
นัดหมายทางออนไลน์ คลิกที่นี่  :  https://lin.ee/F2IgpiG